รีวิว Assassin's Creed Odyssey

วันนี้เราจะมา รีวิว Assassin’s Creed Odyssey ถือเป็นเกมใหม่ล่าสุดของแฟรนไชน์เกมมือสังหารยอดฮิตตลอดกาล ที่มีแผนวางจำหน่ายในวันที่ 5 ตุลาคม 2018 ที่จะถึงเร็ว ๆ นี้ โดยจะลงให้กับเครื่องเกมดังอย่าง Xbox One, PS4 และแน่นอนว่าต้องเป็นเครื่อง PC ด้วยเช่นกัน หลังจากที่ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานี้เอง

โดยตัวเกม Assasin’s Creed Odyssey ภาคใหม่นี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากตัวเกมภาคก่อน ๆ ที่ผ่านมาอย่างมาก โดยเฉพาะรูปแบบการเล่นเกม เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ เราจะมา รีวิว Assassin’s Creed Odyssey กับจุดเด่นที่น่าสนใจหลัก ๆ  6 หัวข้อที่เป็นจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของแฟนไชน์เกม Assasin’s Creed

เล่นเป็นนักรบในยุคสมัยกรีกโบราณ ใน Assassin’s Creed Odyssey

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าเกมแฟนไชน์ Assassin’s Creed นั้น โดดเด่นในการนำเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มานำเสนอผ่านรูปแบบเกม ที่ผู้เล่นจะได้ควบคุมเป็นตัวละครที่ถูกแต่งขึ้น และได้พบปะกับบรรดาบุคคลที่มีชื่อเสียงจริงในประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกันกับภาคนี้ ที่ตัวเกมถูกตั้งอยู่ในยุคที่ไกลออกไปของกรีกโบราณ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในราว ๆ ช่วง 413 ก่อนคริสตกาล ท่ามกลางสงครามเพโลพอนนีเซียน

สงครามเพโลพอนนีเซียน เป็นสงครามระหว่างสปาต้า กับ เอเธน เกิดในช่วง 404 – 431 ปีก่อนคริสตกาล โดยเรารับบทเป็นตัวเอกที่มีอาชีพเป็นทหารรับจ้าง มีเป้าหมายในการล้างแค้นให้กับครอบครัวที่ถูกพรากจากไปโดยจะต้องเดินทางไปทั่วกรีซ อย่างเช่น มิโคนอส, ดีลอส และแอตติกา ระหว่างทางก็จะได้พบกับบุคคลที่มีชื่อเสียงของกรีกอย่าง ฮิปโปเครติส (บิดาแห่งการแพทย์), โสกราตีส (บิดาแห่งปรัชญาตะวันตก), เฮอรอโดทัส (ผู้นักทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์)

ตัวเอกสามารถเล่นได้ทั้ง “ชาย” หรือ “หญิง”

การผจญภัยครั้งนี้ไม่ได้ถูกระบุเอาไว้ว่าเป็นของชายผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้นหากจะมีนักรบหญิงในการผจนญภัยครั้งนี้ คงไม่แปลกนัก ตัวเอกชายของเกมมีชื่อว่าอเล็กซิออส และตัวเอกหญิงชื่อแคสซานดรา ทั้งคู่มีเรื่องราวบทเดียวกัน รวมถึงบทพูด ทักษะเหมือนกัน เว้นแต่รูปร่างหน้าตา และเสียงที่เป็นไปตามเพศของตัวละครเท่านั้น เหมือนกับระบบตัวละครในเกม Mass Effect ที่คุณจะต้องเลือกว่าการผจนญภัยนี้จะดำเนินไปอย่างไรในกรีซ  

การตอบโต้ในบทสนทนา และความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร

  ถือเป็นการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาครั้งใหญ่ ทีทางผู้พัฒนาเกม Assassin’s Creed Odyssey ได้นำระบบการพูดคุยที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะตอบอย่างไร ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ถูกนำมาใช้ในแฟนไชน์อย่างเกม Assassin’s Creed ระบบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ถือเป็นตัวกำหนดทิศทางในการผจนญภัยของเกม เราสามารถที่จะได้ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ จากการสนทนากับตัวละครต่าง ๆ ในเกม รวมถึงการตัดส้นใจต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อการเล่นของเรา   ในตัวละครบางตัวนั้นก็สามารถที่จะจีบ หรือเป็นเพื่อนสนิทของเราได้ ขึ้นอยู่กับคำท่าทางการพูดกับพวกเขา นอกจากนี้ทางผู้พัฒนา Ubisoft ได้ใส่ระบบช่วยเหลือเพิ่มเติม ที่จะช่วยคำนวณ หรือชี้แนะว่า ตัวเลือกในบทสนทนานั้น จะส่งผลออกมาไหนรูปแบบใด เช่น ดี หรือ ร้าย เหมือนกับเกมดังของค่าย Telltale  

เผชิญหน้ากับผลลัพธ์ที่ตามมา

ทุกการกระทำย่อมมีผลลัพธ์ที่สะท้อนกลับมา ยกตัวอย่างเช่น ภารกิจหนึ่งที่เราจำเป็นต้องลอบเข้าไปทำลายกลุ่มกบฏ ตัวเลือกแรกเราพยายามที่จะใช้ความรุนแรงให้น้อยที่สุด ส่งผลให้เราต้องทำภารกิจลักลอบเข้าไปในค่าย เพื่อทำลายอาวุธ และเสบียง ในทางกลับกัน ตัวเลือกที่สอง จะลงเอยด้วยการบุกเข้าทะลาย และสังหารศัตรูให้สิ้นซาก   สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านี้ ก็คือเควส์เสริมอย่างเช่น การช่วยเหลือตัวประกันจากฝ่ายกบฎ ที่จะมาเป็นกำลังสำคัญในภายหลังของเรา โดยเราเลือกที่จะช่วยเหลือไม่ก็ได้ตามใจเรา แต่เมื่อช่วยมาแล้วเขาจะมีผลต่อภารกิจหลักของเรา ซึ่งบางครั้งก็ส่งผลเสียให้กับความสัมพันธู์ของเรา ที่มีกับตัวละครอื่น ๆ ในเกม ทำให้เกมนี้เป็นเกมที่มีอิสระในการเลือก และมีผลกระทบตามมาเหมือนกับโลกจริงเลยทีเดียว  

การรบทางทะเลด้วย “กองเรือรบ”

  เนื่องจากประเทศกรีซนั้น เป็นประเทศหมู่เกาะ ซึ่งมีเกาะเล็ก เกาะน้อยกระจายกันออกไปทั่วบริเวณ ทำให้พื้นที่ในการปกครองส่วนใหญ่เป็นน้ำ ทำให้การเล่นเกมในภาคนี้ “ผืนน้ำ” จึงมีความสำคัญเช่นกัน โดยระบบนั้นจะมีลักษณะใกล้เคียงกับภาค Black Flag ที่เราจะทำลายเรือรบของศัตรูด้วยลูกธนุไฟ ปืนฉมวก หรือการใช้เรือพุ่งเข้าชนด้วยความเร็ว เมื่อเรือมีพลังเหลือ “ศูนย์” ผู้เล่นจะสามารถเข้าไปทำการยึดเสบียงและสมบัติได้ ด้วยการเทียบเรือและเข้าต่อสู้ด้วยจำนวนคน  

ทักษะการต่อสู้ และ “ลูกเตะสปาร์ตัน”

  การพัฒนาทักษะในการต่อสู้นั้น จะแบ่งออกเป็นสาย ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้มีตัวเลือกในการพัฒนาตัวละครไปในทิศทางที่ตนเองชอบ โดยการอัพทักษะเหล่านี้จะส่งผลในการต่อสู้ในเกมเป็นอย่างมาก เช่นทักษะในการทำลายโล่ เพิ่มขีดจำกัดในการรักษา การยิงธูนหลายดอก แต่ไม่มีอะไรที่น่าตื่นตา ตื่นใจไปกว่าลูกเตะ “สปาร์ตันคิก” ที่ส่งศัตรูลอยสู่อากาศ และปริวไปไกลหลายเมตร ซึ่งเป็นลูกเตะท่าเดียวกับในหนังภาพยนต์เรื่อง 300  

%d bloggers like this: